มัธยมปลายส่วนเกินของอุตสาหกรรมการศึกษาในอนาคต?

อาทิตย์ที่แล้วผมไปคุยกับเพื่อน ๆ กลุ่มบ้านเรียนสันกำแพง ที่เชียงใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่ทำบ้านเรียนให้กับลูกช่วงอายุ 3 – 7 ขวบ ผมได้เล่าว่าผมมองอนาคตของการศึกษาไว้อย่างไร ซึ่งผมก็ไม่รู้มันจะตรงหรือเปล่า แต่ผมก็มั่นใจของผมแบบนี้ และด้วยความเชื่อแบบนี้ผมจึงร่วมกับเพื่อน ๆ ตั้งศูนย์การเรียนเด็กเรียนรู้เอง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

ก่อนอื่นผมอยากจะเราให้เห็นภาพสายพานของอุตสาหกรรมการศึกษาที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก่อน

ถ้าเริ่มต้นด้วยคำถามที่ว่า

– เราเรียนไปทำไม คำตอบง่าย ๆ อาจจะเป็น เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย
– เข้ามหาวิทยาลัยไปทำไม เพื่อจบมามีงานทำ
–  มีงานจะได้มีเงินหาเลี้ยงตัวเองได้

ด้วยระบบข้อจำกัดของที่นั่งในมหาวิทยาลัย ทำให้เราต้องมีการสอบเข้า เพื่อเข้าไปเรียนกับผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่าง ๆ ที่อยู่ในมหาวิทยาลัย

แต่ถ้าเราไม่มีข้อจำกัดแบบนั้นแล้วล่ะ เรายังจะต้องไปเรียนในมหาวิทยลัยอยู่ไหม ?

ถ้าเราสามารถเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ได้เลย เราเรียนรู้เสร็จแล้วเราก็สร้างงานหรือทำงานเลยได้ไหม ?

ผมมองว่าด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันโดยเฉพาะความก้าวหน้าด้านการจัดทำและเผยแพร่คลิบวิดิโอ และสื่อ social media จะทำให้การเรียนรู้ของมนุษย์มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เราสามารถเรียนสิ่งต่าง ๆ ในเวลาที่เรามีความสนใจ และเรียนที่ไหนก็ได้ กับคนที่เชี่ยวชาญเรื่องนั้นสุด ๆ เช่น เรียน เทนนิส กับ เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ หรือเรียนร้องเพลงกับคริสติน่า อากิเรล่า เรียนเรื่องอวกาศกับนักบินอวกาศ ดูรายละเอียดได้ใน https://www.masterclass.com

เด็กในยุคหน้าจะมีความสามารถสูงขึ้นและเริ่มทำอะไรมากมายตั้งแต่อายุยังน้อย ทุกวันนี้เราก็เริ่มเห็นแล้ว เราถึงเห็นรายการอายุน้อยร้อยล้าน

พอสถานการณ์เป็นแบบนี้เลยมีคนบอกว่ามหาวิทยาลัยจะตาย ?

แต่ผมว่ายังไงก็ไม่ตายง่าย ๆ นะครับ แค่มีการปรับตัวบ้าง หรือถ้าจะตายก็เป็นมหาวิทยลัยที่ไม่ได้มีผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก เพราะมหาวิทยาลัยยังเป็นที่รวมตัวของผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญอยู่ เค้าแค่ปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีและกลุ่มคนที่เค้าถ่ายทอดความรู้

เราเห็นว่ามหาวิทยาลัยหลาย ๆ แห่งเริ่มปรับตัวแล้ว เปิดคอร์สออนไลน์ หรือเปิดให้คนภายนอกเข้าไปร่วมเรียนในมหาวิทยาลัยเป็นรายวิชา เช่น โครงการ next gen academy ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

ถามว่าใครเป็นลูกค้า คนที่เรียนจบและทำงานแล้วต้องการหาความรู้เพิ่ม กับ นักเรียนที่เตรียมจะเข้ามหาวิทยาลัย คือ ไม่จำกัดอายุ คุณวุฒิ และสัญชาติ เด็กนักเรียนเรียนแล้วสะสมหน่วยกิตไว้เทียบโอนได้

แสดงว่า ในอนาคต ถ้าอยากเรียนก็เข้าเรียนได้ หรือทำงานไปแล้ว อยากรู้เพิ่มก็กลับมาเรียนได้ จะรอวันเข้ามหาวิทยาลัยไปทำไม ก็เข้าไปเรียนเลย หรือไปทำงานก่อนก็ได้

พอมหาวิทยาลัยปรับตัว รองรับลูกค้าที่เป็นนักเรียน อายุน้อยลงได้ มองกลับไปที่สายพานการผลิตของอุตสาหกรรมการศึกษา ใครที่เป็นส่วนเกิน และจะไม่มีประโยชน์ในอนาคตล่ะ !!!

คำตอบคือ “มัธยมปลาย”

จริง ๆ แล้วทุกวันนี้เด็ก ม.ปลาย น่าจะเป็นนักเรียนที่น่าเห็นใจที่สุด คือเค้าควรจะทำอะไรได้เองมากมาย มีความคิดความอ่าน เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าเจอครูที่ไม่เข้าใจ หลักสูตรที่กรอบความคิดเค้าไว้ เส้นทางเข้ามหาวิทยาลัยที่ บล็อคเค้าให้ไปไหนไม่ได้ ต้องรอคอยด้วยการอ่านหนังสือในวิชาต่าง ๆ ที่ตัวเองไม่ได้สนใจ หายใจรอไปวัน ๆ เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย โดยที่จริง ๆ แล้ว เค้าสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ ถ้ามหาวิทยาลัยเปิดกว่านี้ เส้นทางเค้าก็ไม่ถูกบล็อค แล้วมัธยมปลายจะมีไว้ทำอะไร ?

ที่ผมคุยในวันนี้มีได้ทำคลิบไว้ด้วยนะครับ ถ้าทำเสร็จแล้วผมจะได้เอาขึ้นที่ช่อง นอกโรงเรียน ซึ่งท่านที่สนใจสามารถ กดติดตามรอดูได้ที่นี่ครับ

ใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยสามารถแสดงความคิดเห็นได้นะครับ ผมก็คิดจากประสบการณ์ของผม หรือถ้าท่านใดคิดว่า การศึกษามัธยปลาย ยังมีประโยชน์อยู่ แสดงความคิดเห็นได้นะครับ ว่ามีประโยชน์ยังไง หรือในอนาคตที่เปลี่ยนไปจะต้องปรับตัวอย่างไรให้เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน

ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ ^ ^

 

Facebook Comments