เป็นความบังเอิญที่ผมสั่ง คู่นี้มาพร้อมกัน และเพลงใน SD card ของผมมีเพลง X Japan และ Sonata Arctica เมื่อฟังด้วยเครื่องเล่นและหูฟังคู่นี้แล้ว ผมรู้สึกว่าทำให้เพลงเพราะขึ้นมาก ได้ยินเสียงที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ยิน ผมจึงคิดว่าอุปกรณ์คู่นี้เหมาะมากกับเพลงที่มีรายละเอียดเครื่องดนตรีหลายชิ้นเล่นพร้อม ๆ กันอย่างแนว Rock Metal Melodic Metal เป็นอย่างมาก เพราะอะไรมาดูในรายละเอียดกันครับ
Zishan Z2 เข้าคู่กับ DIY MX 760
Digital player + หูฟัง DIY
Zishan Z2 เป็นเครื่องเล่นเพลง Digital Player (DAP) + Digital to Analog Convertor (DAC) คือสามารถเล่นเพลงประเภทต่าง ๆ จาก SD card ได้ หรือในกรณีที่ต้องการเล่นเพลงจากคอมพิวเตอร์ก็สามารถต่อสาย USB เข้ากับ Z2 เพื่อใช้เป็นเหมือน sound card ภายนอกได้ หรือจะใช้ต่อกับมือถือบางรุ่งที่รองรับ ก็จะได้เสียงที่แตกต่างจากการต่อหูฟังตรงจากมือถือ คือเสียงจะเป็นตามบุคลิคของ Z2 แทน เนื่องจากตัว Z2 ทำงานเป็น DAC แปลงสัญญาณจาก digital เป็น analog ทำให้ต่อกับมือถือเครื่องไหนเสียงที่ได้ออกมาจะเป็นบุคลิคของ Z2 แทน
DIY MX 760 เป็นหูฟัง ถ้าค้นคำว่า MX 760 ก็จะเจอหน้าหูฟังรุ่นหนึ่งของ Sennheiser แทน ผมเข้าใจว่าทางผู้ผลิตที่จีนใช้ตัว body ของหูฟังหน้าตาใกล้เคียงกัน พอทำออกมาก็เรียก ชื่อรุ่นเหมือนกัน แต่เติม DIY (do it yourself) เข้าไป ก็ถือว่าเป็นหูฟังอีกที่มีหน้าตาภายอกเหมือนกัน ส่วนเสียงจะเลียนแบบกันมาหรือใกล้เคียงกันหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจเพราะไม่เคยฟังของ Sennheiser
รูปร่างหน้าตา
รูปร่างหน้าตาของ Zishan Z2 ก็จะหน้าตาเหมือน amp หูฟังกระป๋อง ที่ช่วงหลังกำลังฮิตมาก เนื่องจากมีราคาถูก แต่คุณภาพดีเกินราคา ทำทุกอย่างกลับไปที่ basic หมด ไม่มีจอ ใช้ปุ่มกดคำสั่งแบบ analog หมด ที่หน้าตาใกล้กันมีทำออกมาสองค่าย คือ Wallnut เช่น รุ่น V2, V2s ส่วน ค่าย Zishan มีรุ่น Z1 ออกมาก่อนหน้านี้ รุ่น Z2 นี้ราคากระโดดขึ้นมากว่าเพื่อน เพราะใช้ชิบที่เค้าร่ำลือกันว่าเสียงดีของ AK AA90
ตัวครอบเป็นโลหะ
แจ็คทองส่วนหูฟัง DIY MX 760 ด้วยราคาที่ไม่ได้อยู่ในระดับเริ่มต้น ทำให้วัสดุที่ใช้ดูดี สายที่จะเป็นสายถัดเส้นเล็ก แต่ก็ให้เสียงที่ดี แจ็คเป็นแจ็คสมัยใหม่ สามารถเสียบกับมือถือที่ใส่เคสหนา ๆ ได้สะดวก คือแจ๊คถ้าเป็นรุ่นเก่าจะมักจะเสียบกับมือถือได้ไม่สุดเพราะติดเคส แจ็คของหูฟังสมัยใหม่จึงมักมีข้อลดขนาดเพื่อให้เข้ากับรูของเคสได้ ไม่อยากบอกว่าหน้าตาจริง ๆ ดีกว่าในรูปที่เค้าถ่ายขายอีก และฝาหูฟังก็เป็นโลหะ ไม่ใช่พลาสติกอย่างในรูป ส่วนตัวผมชอบ Body แบบนี้กว่า body ของ DIY MX500 เพราะใส่แล้วกระชับหูกว่า เหมือนส่วนที่เป็นแท่งมันจะล๊อคกับร่องหูพอดี ซึ่งน่าจะมีผลกับเสียงบ้างนะ ผมว่า แต่กับหูคนอื่นความกระชับอาจจะไม่เหมือนกัน
เสียง
ผมใส่ฟองน้ำที่แถมมากับหูฟังแบบเต็มหูในการฟัง ฟังแว็บแรก เมื่อได้มาโดยยังไม่ผ่านการเบิร์นใด ๆ เสียงของ DIY MX 760 ถือได้ว่ามีลักษณะ ตัว V ชัดเจน คือเสียงเบสย่านต่ำนี่มาเต็ม ๆ เบียดชาวบ้านเลย ส่วนเสียงแหลมนี่จัดจ้านมาก แต่ให้รายละเอียดการแยกเสียงดนตรีดีมาก แว็บแรกถือว่าประทับใจ แต่…. เบสย่านลึกมันเยอะ แหลมมันจัดสุด ๆ เสียงกลางเสียงร้องนี่แทบหายไปเลย แต่ฟังแล้วรู้ว่ามันไม่ธรรมดา ทั้งหมดนี่ตอนเริ่มฟังนี่ผมใช้ iPhone 6+ เป็นเครื่องเล่น
ต่อมาผมใช้ฟังตอนเข้านอนโดยฟังกับเครื่องเล่น Z2 แทนกะว่าฟังไปจนหลับก็เบิร์นต่อด้วยเพลงใน SD card ของ Z2 นั่นแหละส่วนใหญ่เพลงที่ฟังรอบนี้เป็นเพลง version แสดงสดของ Sonata Arctica ซึ่งปรกติฟังเพลงของวงนี้ด้วยหูฟังอื่น ๆ + iPhone นี่เสียงกลางมันจะเสียด ๆ + มีความมั่ว ๆ หน่อย ๆ เพราะเครื่องดนตรีใส่กันเยอะมาก แต่ฟังคราวนี้ช่วงคลิ้ม ๆ นี่เหมือนนักร้องยืนอยู่กลางเวที ไม่ได้อยู่ในหัวเราแบบหูฟังทั่วไป เลยรู้สึกว่าเฮ้ยน่าสนใจ แต่ตื่นเช้ามาฟังกับ iPhone อีกทีก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะเสียงมัน V มาก กลางจม ๆ เบสเต็ม แม้จะเก็บตัวเร็วแต่ก็เบียดย่านอื่นไปเยอะ แหลมจัด ๆ ช่วงกลางวันช่วงนี้ก็เริ่มเบิร์นไป เบิร์นไปฟังไป สลับกันมาจนกระทั่งได้มีฟังเทียบโดยใช้ หูฟัง DIY MX760 เป็นหลักฟังเทียบระหว่าง Z2 กับ iPhone 6+ เท่านั้นแหละ ผมถึงบางอ้อ เพราะในเพลงอย่าง Welcome to the jungle ฟังใน iPhone 6+ แล้วเสียงเบสมันจะหนัก ๆ กลางแน่น ๆ ไปหมด คือบุคลิคเสียงของ iPhone 6+ ผมว่ามันจะแน่น ๆ ตรงกลางหน่อย เสียงร้องอิ่ม ๆ เต็ม หน่อย แต่พอมาฟังกับ Z2 มันจะโปรงโล่งกว่า เพราะมีเวทีเสียงที่กว้างกว่า ความรู้สึกที่เคยอึดอัด เบสแน่นไป นี่หายไปเยอะเลย เพราะพอเวทีเสียงกว้างขึ้น เหมือนกับมีพื้นที่มากขึ้น เสียงกลองเสียงเบสก็ขยายไปอยู่ข้าง ๆ ปล่อย ให้เสียงนักร้องที่ดูจม ๆ ไม่ค่อยได้ยิน เปิดตัวออกมามากขึ้น รายละเอียดเครื่องดนตรีต่าง ๆ ที่เป็นจุดเด่นอยู่แล้วก็ยิ่งชัดขึ้นมากอีก
ฟังไปฟังมาเบิร์นไปเบิร์นมา น่าจะหลังจาก 70 – 80 ชั่วโมง มารู้ตัวอีกทีเสียงที่แหลมจัด ๆ กัด ๆ ก็หายไป แหลมนวลขึ้น เบสที่บวม ๆ ก็หายไป แต่ก็ยังมีบุคลิคเดิมอยู่คือ กลางจะแห้ง ๆ จม ๆ หน่อย แต่เทียบกับความชัดเจน รายละเอียดการแยกเครื่องดนตรีมาแทนถือว่าคุ้มมาก เพลงที่ไม่เคยแยกออกระหว่างเสียงเบสกับกลอง ก็แยกกันได้ชัดเจนขึ้น ใครที่ต้องแกะเพลงนี่แนะนำเลย อย่างเพลองของวง X Japan ที่เคยฟังแล้วเสียงกลองมันทึบ ๆ อึบ ๆ พอฟังกับคู่นี่แล้วเพราะขึ้นเยอะ ผมเลยว่าน่าจะเหมาะกับพวงเพลง speed metal, melodic metal ต่าง ๆ เป็นอย่างดีนี่โชคดีที่ผมซื้อ Z2 มาคู่กันด้วย ไม่อย่างนั้นผมคงต้องกำจัด DIY MX760 ออกจากคอลเลคชั่นแน่ ๆ เพราะเมื่อฟังบน player ที่ไม่ได้มีเวทีเสียงกว้างอย่าง iPhone แล้ว มันดูไม่ดีไปกว่า DIY MX500 เลย แต่พอไปฟังกับ player ที่มีเวทีเสียงกว้างอย่าง Z2 แล้ว ทำให้ DIY MX760 น่าฟังขึ้นเยอะเลยและเหมาะมากกับการฟังเพลงจากคอนเสิรต์ ประสบการณ์ครั้งนี้เลยทำให้ผมรู้ว่า player มีผลต่อเสียงมากเหมือนกัน คือก่อนหน้านี้ผมได้ซื้อ Meizu MX5 pro ที่ล่ำรือกันว่าเสียงดีมาลอง แต่หูฟังที่ใช้ก็ประมาณ Toneking TP 16 กับ DIY MX500 คือฟังแล้วพอบอกได้ว่า Meizu MX5 pro เสียงโปร่งโล่งว่า เวทีเสียงดีกว่า ไม่ได้แน่นช่วงเสียงกลางแบบ iPhone แต่โดยรวมมันไม่ได้ต่างกันมาก ผมเลยขาย MX5pro ออกไป นี่ถ้าผมได้ MX760 มาก่อนผมอาจจะต้องเก็บ MX5pro ไว้ก็ได้ พอมาเจอหูฟัง MX760 เข้าไปนี่ผมแทบอยากจะเปลี่ยนมือถือใหม่ที่เสียงดีกว่า iPhone6+ เลยทีเดียว
เทียบกับ DIY MX500 นี่ MX500 จะให้เสียงที่ตึบกว่า เสียงร้องที่อิ่มก้องกว่า ร้องเสียงอยู่ในหัว แต่ DIY MX760 นี่จะให้เวทีกว้าง เสียงร้องจะถอยออกไปไม่ก้อง ไม่มากองอยู่ในหัว เบสกลองกระจายออกไปข้างทำให้ไม่กลบเสียงย่านกลาง ได้ยินเสียงเบสกีตาร์ เสียงกลองแยกชิ้นเครื่องดนตรีชัดเจน ได้อรรถรสไปคนละแบบ คือถ้าใช้ iPhone ผมเลือกฟังด้วย DIY MX500 แต่ถ้าฟังด้วย Zishan Z2 ผมขอใช้ DIY MX760 ดีกว่า
สรุป
เครื่องเล่น Zishan Z2 ถือว่าคุ้มค่ามาก เวทีเสียงกว้าง ให้รายละเอียดเสียงดี โทนเสียงออกกลาง ๆ นวล ๆ ไม่ได้ถือกับอุ่น แม้เสียงจะชัดรายละเอียดดี แต่ก็ไม่ถึงกับจัด เมื่อเทียบกับ Wallnut V2s ที่ผมเคยฟังจะออกแนวสดพุ่งกว่าหูฟัง DIY MX760 เป็นหูฟัง ที่ให้เวทีเสียงกว้างมาก ให้รายละเอียดการแยกแยะเครื่องดนตรีดี ที่มีบุคคลิกเสียงตัว V ทำให้เสียงร้องเสียงกลางแห้งไปบ้าง แต่ก็ได้ความชัด มีรายละเอียดมาแทน แต่ DIY MX760 ถ้าไปใช้กับมือถือทั่วไปที่ไม่ได้มีเวทีเสียงกว้างมากก็จะไม่แสดงศักยภาพออกมาเท่าไหร่ เผลอ ๆ จะไม่ได้ดีไปกว่าหูฟังที่มีอยู่เดิม แต่ถ้าไปใช้คู่กับเครื่องเล่นแหล่งกำเนิดเสียงที่มีเวทีกว้างก็จะแสดงจุดเด่นออกมาได้อย่างเต็มที่
หมายเหตุ :
1) ถ้าท่านมีเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น หูฟัง แอมป์ มือถือ ที่ต้องการให้รีวิว สามารถติดต่อผมได้ที่นี่
2) อุปกรณ์ที่ใช้ในการรีวิวครั้งนี้ เป็นอุปกรณ์ที่ผมซื้อมาใช้เอง
3) link สิ้นค้าที่ใส่ในบทความส่วนใหญ่จะเป็น Affiliate link คือผมจะได้รับ % หากท่านได้ซื้อสิ้นค้าผ่าน link เหล่านั้น ซึ่งถือการเป็นการสนับสนุนผมอีกทางหนึ่งครับ