วันนี้ผมได้ฟังหนังสือ Captivate ของคุณ Vanessa เธอเล่าถึงวิธีทำให้การสนทนาของเราไม่น่าเบื่อเธอบอกว่า เทคนิคหนึ่งก็คือ ปลุกคู่สนทนาให้ตื่นด้วยการเรื่องเล่าที่พิเศษไม่เหมือนใคร เรื่องที่คนนึกไม่ถึง ทำให้คู่สนทนาตื่นตัวและการสนทนากระฉับกระเฉง พูดอีกแง่ก็คือ ความแตกต่างทำให้คู่สนทนาตื่นตัวอยู่เสมอ การที่เราเป็นพยายามทำตัวให้เหมือน ๆ กันมันน่าเบื่อ เวลาที่เราทำตัวให้อยู่ในกรอบส่งผลให้ไม่มีใครจดจำเราได้ ดังนั้นเราจึงควรเป็นตัวของตัวเอง เพราะเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าคุณจะแปลกประหลาดสักหน่อยนั่นแหละที่เราต้องการ คนที่คลิ๊กกับคุณจะชื่นชมคุณ
เทคนิคของเธอทำให้ผมนึกย้อนไปถึงวันที่ พ่อแม่บ้านเรียนที่เชียงใหม่ต้อนรับ ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
หลังจากฟังเด็กบ้านเรียนน้องออมมี่เล่าถึงการเรียนรู้ของตัวเองแล้ว ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ให้ความสนใจและสอบถามถึง ตารางชีวิตหรือตารางการเรียนรู้ของออมมี่ ออมมี่ดูจะไม่มั่นใจที่จะพูดถึงตารางการตื่นนอนของตัวเอง ที่ตื่นตอนเที่ยงหรือบ่าย !!!
แต่ผมเคยได้ยินเรื่องนี้จากคุณแม่ของน้อง ในการประชุมสรุปผลการนิเทศก์บ้านเรียน คือเวลาเราทำบ้านเรียนทุกปีจะมีศึกษานิเทศก์ ไปเยี่ยมที่บ้านเหมือนการตรวจเยี่ยมโรงเรียน ในวันนั้นศึกษานิเทศก์ที่มีดีกรี ดร. ท่านหนึ่งได้ยินคุณแม่เล่าว่าลูกตื่นเที่ยง ท่านไม่ได้ถามอะไรต่อแต่ให้ความเห็นประมาณว่าถ้าตื่นเที่ยงแบบนี้ก็ไม่ไหว
วันนั้นผมถือวิสาสะเผยตารางการตื่นนอนของออมมี่ให้ท่านปลัดฟัง และจากนั้นเวลาการตื่นของออมมี่ได้เปิดประตูให้เรื่องราวการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ ความเป็นแฮ็คเกอร์ของออมมี่ ที่ต้องติดต่อเชื่อมโยงกับเพื่อนในอีกฝั่งของโลกได้สร้างความน่าทึ่งให้กับผู้ฟัง ทำให้เรื่องต่าง ๆ จากการพูดคุยนำเสนอเกี่ยวกับการจัดบ้านเรียนของพวกเราในวันนั้นมีชีวิตชีวาขึ้นมาก

ผมนึกถึงการเลี้ยงลูก ถ้าลูกของเราจะมีอะไรแปลกประหลาดมากมาย แต่มันไม่ได้ส่งผลเสียหายหรือทำให้ใครเดือดร้อน เราพอรับได้ ปล่อยให้เขาเป็นตัวของตัวเองเถอะครับ เพราะเราคงอยากอยู่ในโลกที่สดใส ร่างเรื่อง กระชุ่มกระชวย มากกว่าโลกของหุ่นยนต์ที่อะไรๆ ก็เหมือนกันไปหมด